เมนูจานเด่นที่คุณคู่ควร กับอาหารอิตาเลียนต้นตำรับ ณ ห้องอาหารเวนติซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์

0    95    0    23 เม.ย. 2567 18:20 น.   
แบ่งปัน

ห้องอาหารเวนติซี ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ รวบรวมเมนูความอร่อยตามแบบฉบับอาหารอิตาเลียนต้นตำรับ และอาหารไทยสูตรดั้งเดิม พร้อมให้คุณมาลิ้มรสความอร่อยแบบไม่ต้องไปไกลถึงอิตาลี โดย เชฟแอนเดรีย มอนเทลลา หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ พร้อมเชฟประจำห้องอาหาร คัดสรรวัตถุดิบส่วนผสมชั้นเลิศตามแบบฉบับอิตาเลียนแท้ๆ นำมาบรรจงปรุงอย่างพิถีพิถัน รังสรรค์เมนูแสนอร่อยมากมาย ทั้งเมนูพาสต้า, รีซอตโต้, ชีสนานาชนิด, พิซซ่าทำสดใหม่เสิร์ฟร้อนจากเตา หรือจะเป็นเมนูจานเด่นประจำห้องอาหาร อาทิ การ์ปัชโชสไตล์เตรนติโนเสิร์ฟพร้อมเดรสซิ่งมะนาว ผักร็อกเก็ต และชีสเทรนติกราน่า ราคา 530 บาท++, พาร์มาแฮมโพรสคิโตเสิร์ฟพร้อมเมลอน ราคา 590 บาท++, ปลาหมึกคารามารีย่างเสิร์ฟพร้อมสลัดพานซานีลาและครีม ราคา 390 บาท++, ชีสบูราต้าทรัฟเฟิลเสิร์ฟพร้อมร็อกเก็ต และเห็ดทรัฟเฟิล ราคา 380 บาท++, ริซอตโตเห็ดพอร์ชินีเสิร์ฟพร้อมตับห่าน ราคา 780 บาท++, ริซอตโตหมึกดำซีฟู้ด ราคา 610 บาท++, ซี่โครงหมูสไตล์มิลาเนสเสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศเชอรี่ มันฝรั่งอบ และสลัดร็อกเก็ต ราคา 750 บาท++, ทาเกลียเทลเล่เสิร์ฟพร้อมไส้กรอกโฮมเมด และเห็ด ราคา 390 บาท++ และอื่นๆ อีกมาก อีกทั้งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการรังสรรค์อาหารจากครัวเปิดทั้ง 2 โซน คือครัวอาหารอิตาเลียนและครัวอาหารไทย  
 
ห้องอาหารเวนติซี ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00 น. - 22.30 น. (ปิดรับอาหารเวลา 22.00 น.)

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 02-100-6255 หรือ อีเมล์: diningcgcw@chr.co.th
ติดตามข่าวสารของห้องอาหารเวนตี้ซี่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ได้ที่
เฟสบุ๊ค: Centara Grand & Bangkok Convention Centre at CentralWorld
อินสตาแกรม: centaragrand_centralworld
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
วัตสันเดินหน้า รุกขยายสาขา  พร้อมเปิดตัว Greener Store แห่งแรกของประเทศไทย  มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน สำนักพิมพ์แม่บ้าน
วัตสันเดินหน้า รุกขยายสาขา พร้อมเปิดตัว Greener Store แห่งแรกของประเทศไทย มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน
วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย เผยทิศทางธุรกิจ ประจำปี 2567 เน้นขยายการเติบโต รวมถึงการนำความยั่งยืนมาใช้ผสานในการพัฒนาส่วนต่างๆ ของธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ วัตสัน ในฐานะผู้นำตลาด ยังคงมุ่งหน้าชูกลยุทธ์การชอปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์ (O+O) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงการต่อยอดให้กับสินค้าภายใต้แบรนด์วัตสัน โดยทั้งหมดนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของวัตสันในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา